วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สัญญาณเตือนการคลอด

สัญญานเตือน
สัญญานเตือนของร่างกายในช่วงแรกของการเริ่มต้น

น้ำเมือกไหลปนกับเลือด
หากคุณแม่มีน้ำเมือกออกมาจากช่องคลอด นิ่งไว้ไม่ต้องกังวล มันคือเมือกที่ขับออกมา แต่ยังไม่มีสัญญานเตือนใด ๆ ปรากฎชัด แต่การคลอดจวนจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

ถุงน้ำคร่ำแตก
หากน้ำใส ๆ และ อุ่นไหลออกมาเยอะ ไม่ต้องวิตก ใส่ผ้าอนามัยที่ซึมซับได้ดีและเตรียมตัวเดินทางไปโรงพยาบาล

ท้องของคุณเริ่มแข็งตัว
เมื่อท้องของคุณเริ่มแข็งตัวและหย่อนตัวเข้าสู่การหดตัวของมดลูก เริ่มรู้สึกปวดเป็นระยะ ๆ ทุก 5 นาที เป็นช่วงเริ่มรู้สึกปวดที่จะคลอด และบอกว่าที่คุณพ่อให้เตรียมตัวล่วงหน้าไว้ ช่วงแรกของภารกิจไม่ง่ายเลย แทนที่จะนั่งวิตกก็โทรศัพท์ปรึกษาสูตินรีแพทย์ หรือไปติดต่อที่โรงพยาบาลเลย

แต่งห้องนอนให้ลูกน้อย

เตียงนอน
เตียงเด็กต้องมีความแข็งแรงและปลอดภัย เตียงที่มีซี่่กรงกั้นเป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะสวยงามและแข็งแรง เตียงชนิดนี้เหมาะกับคุณแม่ที่มีลูกลายคน เนื่องจากส่วนล่างสามารถปรับระดับได้ซื้งสะดวกต่อการเปลี่ยนที่นอนให้มีความหนาขึ้นตามขนาดร่างกายของเด็ก และเมื่อปรับเตียงให้อยู่่ในระดับสูงที่สุด ก็จะมีพื้นที่เปลี่ยนผ้าอ้อมได้ข้าง ๆ เตียง ต้องเลื่นอไปมาได้ ทำให้อุ้มเด็กขึ้นมาได้ง่ายและสะดวกสบายต่อการเปลี่ยนผ้าอ้อม นอกจากนี้ยังต้องคำนึงความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีทาก็ต้องไม่มีสารปนเปื้อน มุมเตียงต้องมนกลม ความถี่ของซี่กรงต้องพอเหมาะ

การตกแต่ง
ควรเลือกวอลเปเปอร์ที่เช็ดทำความสะอาดได้และสีที่ไม่มีกลิ่น เพราะกลิ่นสี จะมีสารตะกั่วและสารพิษปนเปื้อนชุดเครื่องนอน ผนัง และของประดับ ควรจะมีลวดลายในแบบเดียวกัน ควรมีม่านเพื่อนกันแสงแดดยามเช้า และกันเสียงรบกวนในส่วนของแสงไฟนั้น ทารกมักจะชอบแสงไฟออกจากโคมไฟที่ใช้ประดับตามที่ต่าง ๆ ในห้องนอน

วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิธีอาบน้ำให้ลูกน้อย

แม่มือใหม่หัดอาบน้ำ
แม้ว่าคุณแม่จะได้ดูวิธีการอาบน้ำให้ลูกที่โรงพยาบาลแล้ว หรือแม้แต่มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยอยู่ข้าง ๆ ในการอาบน้ำให้ลูกครั้งแรก แต่ก็ยังเป็นประสบการณ์ที่รู้สึกหวาดหวั่นเมื่อกลับบ้าน และต้องลงมือทำด้วยดัวเองเพียงลำพัง แต่ไม่ต้องกังวล คุณแม่จะค่อย ๆ เรียนรู้ไปเองโดยธรรมชาติ

1.สำลีชุบน้ำ บีบให้แห้ง เช็ดหน้า จมูก ปาก เช็ดหูทั้งสองข้างด้วยสำลีก้าน


2.ผสมน้ำร้อยกับน้ำเย็นให้อุ่นค่อย ๆ อุ้มเด็กลงในอ่าง ใข้ฟองน้ำถูสบู่ ถูท่อนบนก่อน


3.ถูสบู่ตามข้อพับ ซอกคอ พลิกตะแคงถูด้านหลัง แล้วเช็ดสบู่ออกให้หมด


4.ห่อตัวเด็กด้วยผ้าขนหนูผืนใหม่ เพื่อให้เด็กอบอุ่น ทาแป้ง ใส่ผ้าอ้อมแล้วใส่เสื้อ



ของใช้จำเป็นสำหรับเจ้าตัวน้อย
คุณแม่มือใหม่ ควรเตรียบของใช้ประจำเป็นบางส่วน สำหรับเจ้าตัวน้อย หลังจากพาเจ้าตัวน้อยกลับบ้าน

อาบน้ำให้ลูกน้อย

เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนอาบน้ำให้ลูกน้อย

การอาบน้ำให้ลูก จะง่ายขึ้น ถ้าคุณแม่เตรียมตัวให้พร้อม ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มอาบน้ำคุณแม่ต้องเตรียมสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้

1.อุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ
คุณแม่ควรเตรียมอ่างอาบน้ำพลาสติกสำหรับเด็ก และควรมีขนาดเล็กกว่าอ่างอาบน้ำทั่วไป เพราะจะช่วยให้การอาบน้ำให้ลูกปลอดภัยขึ้น ฟองน้ำสำหรับเด็ก หรือผ้านุ่ม ๆ สบู่หรือครีมอาบน้ำ

2.อุปกรณ์หลังอาบน้ำ
หลังอาบน้ำ คุณแม่ต้องควรเตรียมโลชั่นสำหรับเด็ก หรือเบบีออย์ทาผิวให้ลูกน้อยเพื่อป้องกันผิวแห้ง สำลี และคัตตอนบัด เพื่อเช็ดทำความสะอาดผิว ที่ตัดเล็บ หวีแปรงผมที่มีขนอ่อนนุ่ม เป็นต้น

3.ของเล่นขณะอาบน้ำ
เด็กแรกเกิด อาจยังไม่พร้อมเล่นของเล่นขณะอาบน้ำ แต่เด็กอายุ 3-5 เดือน สนใจจ้องมองสิ่งต่าง ๆที่อยู่ด้านนหน้า คุณแม่อาจติดโมบายที่มีสีสันสวยงานให้ลูกน้อยได้มองเพลิน ๆ ขณะอาบน้ำ เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป คุณแม่สามารถหาของเล่นมาให้เค้าได้หยิบจับตอนอาบน้ำก็ได้

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การเปลี่ยนผ้าอ้อม

ในแต่ละวัน คุณแม่ต้องคอยเปลี่ยน และทำความสะอาดก้นของลูกน้อยทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง หรือทุกครั้งที่ถ่าย เพือสุขอนามัยที่ดีของเจ้าตัวน้อย ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณแม่มือใหม่


ถอดผ้าอ้อมผืนเก่าออก เช็ดทำความสะอาดด้วยสำลีชุบน้ำ บริเวณก้น ขาหนีบ ทวานหนัก


ยกขาเด็กทั้งสองข้างสอดผ้าอ้อมให้รองใต้ก้นเด็ก วางขาลง


ติดแถบกาวทีละข้างให้กระชับ จัดทรงผ้าอ้อมสำเร็จรุปให้ต่ำกว่าสะดือ


แค่นี้ลุกน้อยก็สบายตัว ไม่ร้องให้โย้เย็แล้ว

การเลือกผ้าอ้อม

การเลือกผ้าอ้อมแบบง่่าย ๆ

คุณแม่มือใหม่บางคนไม่แน่ในว่าจะใช้ผ้าอ้อมที่เป็นผ้า หรือผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ใช้แล้วทิ้งดี ผ้าอ้อมที่ทำด้วยผ้าจะมีงานซักฟอกทำความสะอาดและสถานที่ตาก ผึ่งให้แห้ง การใช้ผ้าอ้อมซักได้ จะถูกกว่าในระยะยาว ผ้าอ้อมใช้แล้วทิ้งก็สะดวก แต่ค่าใช้จ่ายสูง การตัดสินใจขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมและฐานะ ถ้ามีเครื่องซักผ้า และอบแห้งได้ การใช้ผ้าอ้อมซักได้ก็ดีกว่า แต่ถ้าไม่มี อาจจะใช้ร่วมกันได้ คือ ใช้ผ้าอ้อมที่ทำด้วยผ้าในเวลากลางวัน และใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปในเวลากลางคือ เพือจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย อย่าลืมว่า บ้านเรามีอากาศร้อน ใส่ผ้าอ้อมตลอดเวลาอบมาก บางคนเกิดผิวหนังอักเสบ ควรงดใช้ชั่วคราว จนกว่าจะหาย

เมื่อเจ้าตัวน้อยเริ่มเคลือนไหว
เต็กแรกเกิด ต้องหมั่นเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อย ๆ และผ้าอ้อมต้องไม่ระคายเคืองต่อผิวเจ้าตัวน้อย


3-5 เดือน เด็กจะเริ่มคลาน ต้องมั่นใจว่าผ้าอ้อมที่ใช้สามารถรองรับการเคลื่อนไหวได้ดี


6 เดือน เด็กมีการเคลื่อนไหวมากขึ้น ผ้าอ้อมจึงต้องกระชับ ใส่สบาย


18-24 เดือน คุณพ่อ คุณแม่ส่วนใหญ่เริ่มฝึกลูกให้นั่งกระโถน ซึ่งระยะนี้เด็กพร้อมที่จะฝึกได้เป็นอย่างดี

การเลี่ยงลูกด้วยนมแม่

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
ลูกดูดนมได้อย่างเต็มที่ ตามความต้องการของร้างกาย และนมแม่ยังมีสารอาหารที่ป้องกัน โรคภูมิแพ้ และโรคติดเชื้อต่าง ๆ

มีสารอาหารครบถ้วนย่อยง่าย และอุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ และวิตามิน สารอาหารในนมแม่จะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการและการเจริญเติมโตที่ดี

ควรจะเริ่มให้ลูกดูดนมตั้งแต่วันที่ 2 หลังคลอด ถึงแม้จะยังไม่รู้สึกคัดเต้านมก็ตาม เมื่อลูกเริ่มดูด ก็เป็นการกระตุ้นให้ต่อมน้ำนมสร้างน้ำนมได้เร็วขึ้นด้วย สำหรับในกรณีที่คุณไม่อาจให้นมลูกในขณะที่ยังอยู่ในโรงพยาบาลนั้น ควรปั๊มนมออกเป็นระยะ ๆ อาจทุก 3 ซม. เพื่อสร้างทางให้นมไหล และทำให้ต่อมน้ำนมสร้างน้ำนม เมื่อออกจากโรงพยาบาล ก็สามารถเลีัยงลูกด้วยน้ำนมแม่ได้ทันที สำหรับคุณแม่ที่ทำงานนอกบ้าน ควรพยายามให้นมลูกให้มาที่สุด อย่างน้อย ตลอดระยะเวลาลาคลอด 45 วัน - 3 เดือน ไม่ควรรีบ

การให้นม
การนอนให้นม ส่วนมาก จะเป็นท่าที่ใช้ในช่วงเวลากลางคืน เพราะจะเหมาะมากสำหรับคุณแม่ที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
ให้นอนตะแคงด้านซ้าย หรือด้านขวา ตามที่คุณแม่ถนัดเมื่อต้องการให้นม
นอนหนุนหมอนหนึ่งใบ อีกใบให้วางไว้ข้างตัวคุณ

ให้ลุกน้อยกันหน้าเข้าหาคุณ ให้ศรีษะเด็กอยุ่ในระดับเดียวกันเต้านม


จับเด็กให้อยู่ในท่าพร้อมสำหรับการดูดนมจากเต้า

วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การเดินทางท่องเที่ยงของคุณแม่

การเดินทางท่องเที่ยว และพักผ่อนวันหยุด
คุณจะร้องระมัดระวัวเป็นอย่างยิ่ง เพราะคุณจะร้องพานักเดินทางตัวน้อยไปกับคุณด้วย
ระหว่างเวลา 4-5 เดือน หรือสัปดาห์ที่ 14-28 คือ จังหวะเหมาะเจาะที่สุดในการเดินทาง ท้องคุณแม่มีขนาดกำลังดี ใส่ชุดว่ายน้ำยังดูน่ารัก และเป็นช่วงที่มีความปลอดภัยในการใช้บริการเครื่องบิน ซึ่งสถานที่ก็ไม่จะเป็นต้องไกลมาก เช่น พิพิธภัณฑ์ชายทะเล หรือ อุทยานแห่งชาติสักแห่งเพือพักให้สบาย โดยมีหนังสือเล่มโปรดสักเล่ม หรือนอนฟังเพลงโปรดริมแม่น้ำ หรือบนชายหาดก็ได้
การที่คุณแม่ได้สูดอากาศดี ๆ ชื่นใจ สักวันสองวัน ค่อยกลับจะเป็นการผ่อนคลายความกังวลเรืองการตั้งครรภ์ได้ดีทีเดียว เที่ยวลดเครียด แม่สบาย ลูกก็สบาย

เดินทางอย่างไร ไร้กังวล
ก่อนอื่น ต้องวางแผนและเรียมการล่างหน้า สำหรับอะไรที่สามารถจัดการก่อนได้ เช่น ตั๋วเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถทัวร์ หรือรถไฟ ถ้าจับจองที่นั่งได้ ก็ควรทำ เพราะควรเลือกที่นั่งที่สามารถลุกไปเข้าห้องน้ำได้สะดวก ก็ช่วงท้อง คุณแม่มักเข้าห้องน้ำบ่อย ที่พักที่หมายตาไว้ก็ต้องจองไว้ก่อน

ขั้นตอนแพ็คกระเป๋า
ซึ่งจะต้องเลือกของที่ง่ายต่อการหอบหิ้ว และจัดให้เหมาะสมกับเวลาของอะไรที่ต้องใช้ตลอด ก็ต้องจัดใส่กระเป๋าใบเล็ก ให้อยุ่ใกล้มือเสมอ

การเล่นกีฬา

อันตรายไหม หากคุณแม่จะเล่นกีฬา
คุณแม่สามารถเล่นกีฬาได้แทบทุกประเภท แต่ต้องไม่รุ่นแรง หรือหักโหม จนทำให้เกิดอันตราย ถ้าคุณแม่ที่เคยออกกำลังมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ควรลดการออกกำลังการเหลือเพียง 50% ของการออกกำลังกายตามปกติ

เดินเล่น
เป็นการออกกำลังกายที่ง่านในพรรยากาศที่ร่มรื่น คุณแม่่จะรู้สึกสบาย สดชื่น ผ่อนคลาย โดยคุณแม่เดินเพียงวันละครึ่งกิโลเมตร จะช่วยเรืองการย่อยอาการและการไหลเวียนอขงเลือดได้ดีขึ้น ควรสวมรองเท่้าส้นเตีย ๆ ให้คุณแม่ก้าวท้าวยาว ๆ อายผายและแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อย ควรเดินเป็นประจำทุกวัน ทำให้แข็งแรง

โยคะ
เป็นการออกกำลังกายอีกแบบหนึ่งที่จะช่วยร่างกายทุกระบบให้สมดุลตามธรรมชาติ การฝึกโยคะเป็นประจำจะช่วยให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น และผ่อนคลายได้ดี โยคะช่วยคุณแม่ในเรื่องการควบคุมการหายใจ

ว่ายน้ำ
คุณแม่ที่ต้องการความรู้สึกเป็นอิสระ การว่ายน้ำจะช่วยได้มาก เพราะขณะที่คุณแม่ว่ายน้ำ ร่าวกายเหมือนไร้น้ำหนัก ทำให้สบายตัว การว่ายน้ำ เป็นกีฬาที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณแม่ ทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายทุกส่วนแข็งแรงขึ้น

กิจกรรมในบ้าน
คุณจะต้องจักการให้ตัวคุณเองมีสุขภาพแข็งแรงอยุ่เสมอ เพราะเป็นสิ่งสำคัญมาก สำหรับช่วงแรก และช่วงหลังการตั้งครรภ์ หลีกเลี่ยงการยกหรือถือของหนัก ควรจัดเวลาการทำงาน และยอมรับความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะจากคุณพ่อ และหากคุณจำเป็นต้องย้ายบ้าน ก็ควรย้ายในช่วงระยะกลาง ๆ ของการตั้งครรภ์ จะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด

กิจกรรในที่ทำงาน
หากว่าอาชีพของคุณไม่กระทบกระเทีอนต่อร่างกายก็สามารถทำงานต่อไปได้โดยไม่มีปัญหา ในกรณีวันหยุดตามกฏหมายให้ความคุ้มครอง และกำหนดวันหยุดสำหรับเลี้ยงลูกด้วยหรือไม่ ควรศึกษาสิทธิต่าง ๆ ตามกฏหมาย ให้แพทย์ออกใบรับรองเพือลางาน หากร่างกายของคุณต้องการพักผ่อนอย่าทำตัวเป็นหญิงเหล็กและหากรู้สึกต้องการพักก็ทำงานให้ชาลง

การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายในที่ทำงาน
-สูดหายใจเข้า พร้อมยกไหล่ขึ้นค้างไว้สักครู่ แล้วเอาลงพร้อมหายใจออก
-หมุนไหล่จากข้างหน้าไปข้างหลัง ประมาณ 2-3 ครั้ง
-หมุนข้อเท้าเป็นวงกลมเล็ก ๆ เพือกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณขา

คุณแม่ต้องดื่มอะไรบ้าง


น้ำ
ควรระวังการดื่มน้ำจากก๊อก และควรเลือกดืมน้ำแร่ขวด ซึ่งมีปริมาณเกลือน้อย และบริสุทธิ์มากกว่า เพราะการดื่มน้ำต้มมีผลต่อการกระตุ้นความหิว และทำให้คุณทานอาหารมากขึ้น ความดื่มน้ำ 1.5 ลิตร/วัน ทั้งนี้อาจมีผลทำให้ปัสสาวะบ่อย ซึ่งจะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่สภาพรายกายของคุณ

นม
ประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ คือ แคลเซี่ยมและฟอสฟอรัส จึงช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง นอกจากนั้นยังมีโปรตีน น้ำตาลแลคโตสและวิตามินต่าง ๆ โดยเฉพาะ วิตามินบี 2 ที่ช่วยให้ร่างกายเจริญเติมโตและทำให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ ทำงานเป็นปกติ นมมีหลายชนิดมีทั้งนมรสจืด และนมปรุงแต่งชนิดต่าง ๆ ซึ่งให้คุณค่าอาหารใกล้เคียงกัน หญิงมีครรภ์ ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ควรดื่มนมวันละ 1-2 แล้ว ทำให้กระดูกแข็งแรง และชะลอการเสื่อมสลายของกระดูก ผู้ใหญ่บางคน ไม่สามารถดื่มนมได้เนื่องจากดื่มนมแล้วเกิดปัญหาท้องอืด เพราะร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมได้ จึงอาจปรับเปลี่ยนวิธีการดื่มโดยให้ดื่มนมครั้งละน้อย ๆ ส่วน นมถั่วเหลือง หรือน้ำเต้าหู้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่งเหลือง ให้โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดื่มได้เป็นประจำเช่นกัน

กาแฟ ชา และเครื่องดื่มชนิดชง
การแฟและชา มีสารกระตุ้น ดังนั้นอย่าดื่มอย่างผิดวิธี ควรเลือกกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน

แคลอรี่ของอาหารประเภทต่าง ๆ

แคลอรี่ของอาหารประเภทต่าง ๆ ต่อ 100 กรัม
เนย 780 แคลอรี่
เนยไขมันต่ำ 410 แคลอรี่
น้ำมันพืช 900 แคลอรี่
หอยเชลล์ 70 แคลอรี่
หอยแมลงภู่ หอยนางรม ปู กุ้ง และกุ้งแม่น้า 80 แคลอรี่
ปลาไขมันต่ำ เช่น ปลาแฮริ่ง ปลาทู ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ปลากะพง ปลาตาเดียว 125 แคลอรี่
นมแพะ 330 แคลอรี่
นมสด 70 แคลอรี่
นมพร่องมันเนย 50 แคลอรี่
นมถัวงเหลืองไม่ใส่น้ำตาล 48 แคลอรี่
ไข่ 60 กรัม 80 แคลอรี่
โยเกิร์ตธรรมชาติ 55 แคลอรี่
โยเกิร์ตไขมันต่ำ 44 แคลอรี่
ข้าว 350 แคลอรี่
ขนมปังขาว 225 แคลอรี่
ขนมปัง 230 แคลอรี่
หน่อไม้ฝรั่ง 25 แคลอรี่
มะเขือยาว 28 แคลอรี่
แครอท 38 แคลอรี่
เห็ด 28 แคลอรี่
แตงกวา 13 แคลอรี่
กะหล่ำ 28 แคลอรี่
ผักโขมฝรั่ง 25 แคลอรี่
ถั่งแขก 40 แคลอรี่
ถั่วเปลือกแข็ง 340 แคลอรี่

เมนู ปลา ดีต่อสุขภาพ

เมนูปลา ดีต่อสุขภาพ
เนื้อปลากะพงนึ่งพริกไทยดำ
วันนี้เรามีเมนูอาหารสำหรับคุณแม่มาแนะนำ เผื่อคุณแม่เบื่อ ๆ อาจจะลองลุกมาทำทานเล่น ๆ รับรองว่า ได้คุณค่าทางโภชนาการดีทีเดียว ดีทั้งคุณแม่ และคุณลูก แบ่งให้คุณพ่อทานด้วยก็ไม่เสียหาย มาดูขั้นตอน และส่วนผสมกันเลย
เครื่องปรุง
กะทิ 4 ช้อนโต๊ะ
ผมกะหรี่ 1 ช้อนชา
รสดีรสไก่ 1/2 ช้อนโต๊ะ
เนื่อปลากะพงแดง 200 กรัม
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเล็ก 1/2 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่ซอย 3/4 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าเขียวหั่นเล็ก 1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำบดหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.ในชามผสม เอาผงรสดีรสไก่ ผงกะหรี่ กะทิ ผสมให้เข้ากัน
2.นำเนื้อปลากะพงแดงใส่ลงในชามผสม หมักทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง
3.เอาเนื้อปลาที่หมักแล้ว นึ่งในเตาไมโครเวฟระดับกลางประมาณ 5 นาที เมื่อสุกแล้วนำใส่จานพักไว้ ห่อด้วยพลาสติกเวลานึ่ง
4.นำกะทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันให้ร้อนใส่น้ำมันพืช พริกชี้ฟ้าแดง หอมใหญ่ พริกชี้ฟ้าเขียว ลงผัด พอสุก นำพริกไทยดำง่วนสูนลงผัดใส่น้ำมันหอย น้ำเปล่าผัดพอให้เข้ากัน ตักขึ้นราดบนชิ้นปลากะพงแดงที่เตรียมไว้ในจาน ยกเสิร์ฟได้

วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

น้ำหนักเกิน

คุณแม่ควร ระวัง น้ำหนักเกิน
คอยระวังน้ำหนัก-หมั่นคุมน้ำหนักอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ น้ำหนักควรจะเพิ่มขึ้น 8-10 กิโลกรัม แพทย์จะดูความเหมาะสมในแต่ละกรณ๊ ความอ้วนระดับปกติ น้ำหนักจะคงอยู่ในระยะ 3 เดือนแรก และค่อย ๆ เพิ่มประมาณ 1.5 กิโลกรัม แหล่งของแคลเซียมที่ดี คือ นมสด คุณสามารถเลือกพร่องมันเนอย หรือไม่มีใขมันเพื่อหลีกเลี่ยงไขมันที่มากเกิน

ควบคุมน้ำหนัก
หากน้ำหนักขึ้นมาเกินไปทำให้ปริมาณสารอาหารอาจมากเกินไปด้วย ควรทำให้ร่างกายกลับมาสมดุลอีกครั้ง ดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการกินจุกจิกระหว่างมื้อ อาหารเมื่อหิว ให้รับประทานในประมาณอาหารที่เหมาะสม ได้แก่ เนื้อแช่เข็ง ไก่ ผลิตภัณฑ์จากนมพร่องมันเนย ผลไม้ แครอทดิบ ผักกาดหัว มะเขือเทศ ฯลฯ
2.ระวังการรับประทานอาหารที่ทำให้อ้วน อาจศึกษาจากตารางแคลอรี่
3.ปรุงอาหารด้วยวิธีการหุงต้มอาหารที่อร่อย ถูกสุขอนามัย และปราศจากไขมัน

สารอาหารที่คุณแม่ต้องการระหว่างการตั้งกครรภ์

กรดโฟลิค
กรดโฟลิค ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดความผิดปกติแต่กำเนิด เช่น ความผิดปกติของกระดูกสันหลัง ช่วงเวลาที่เหมาะจะรับประทานคือช่วง 2-3 เดือนก่อนคลอด จำเป็นมากที่คุณแม่จะต้องรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์และครบห้าหมู่ พร้อมทั้งคุณแม่สามารถเลือกอาหารที่มีกรดโฟลิกสูง มารับประทาน เช่น ผักที่มีสี่เขียวอย่าง บล็อคโคลี่ กระหล่ำปลี ฝักถั่วและเมล็ดถั่วและผลไม้ เช่น ส้ม

ธาตุเหล็กและวิตามินซี
ธาตุเหล็ก เป็นหนึ่งในสารอาหารหลักที่คุณแม่ต้องการตลอดเวลา ในช่วงการตั้งครรภ์ เพราะเป็นสารสำคัฐใน การช่วยให้ออกซิเจนไหลเวียนไปกับเม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกน้อยในครรภ์ใช้ในการพัฒนาสมอง คุณแม่ต้องแน่ใจว่าได้รับประทานอาหารที่มีธาติเหล็กสูงอย่างเพียงพอ เช่นเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ผลไม้แห้ง ซีเรียลธัญพืช และขนมปังธัญพืช และผักใบเขียว

ไขมันโอเมก้า
การได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ระหว่างการตั้งครรภ์นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเป็นสารที่ช่วนให้ระบบประสาทของลูกน้อย พัฒนาได้ดีทั้งยัง ช่วยป้องกันโรคหัวใจให้กับคุณแม่ได้ ปลาที่มีไขมันอย่างเช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล และปลาแซลมอน ต่างก็มีกรดไขมันโอเมก้า3 อยู่สูง แต่คุณแม่ก็ไม่ควรรับประทานมาก คุณแม่อาจเลือกที่จะรับกรดไขมันโอเมก้า 3 จากแหล่งอืนได้ ในเมล็ดพันธุ่พืชต่าง ๆ เช่น เมล็ดฟักทอง เมล็ดนุ่น หรือถั่วเหลือง

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ผักและผลไม้สำหรับคุณแม่

การรับประทานผัก และผลไม้ทุกวัน คุณได้มอบของขวัญที่ดียิ่งแก่ทารก เพราะผักและผลไม้จะอุดมไปด้วยวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ในช่วงปีแรก ๆ ของการเจริญเติมโตของทารก การสร้างนิสัยรับประทานผักและผลไม้ให้เคยชิน จะช่วยเอื้อต่อการทำงานของลำไส้ บอกลาอาการท้องผูกได้เลย

วิตามินA-พบในผักชีฝรั่ง กะหล่ำปลี ผักขมฝรั่ง ผักกาดหอม แครอท มะเขือเทศ
วิตามินB-พบในเมล็ดข้าวสาลี ผักเปลีอกแข็ง
วิตามินB9(โฟเลท)-พบในผักใบเขียว แครอท หน่อไม้ฝรั่ง บรอคโคลี่ แตงกวา ส้ม องุ่น มะขามเทศ
วิตามินC-พบในมะเขือเทศ ผักชีฝรั่ง กะหล่ำปลี ส้ม ส้มโอ มะนาว ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ กีวี่ และ สละ
วิตามินE-พบในวอเตอร์เครส ผักกาดหอม ถึ่ว อัลมอลด์
วิตามินD-พบในวน้ำมันปลาค็อท เมล็ดข้าวสาลี
วิตามินK-พบใน ผักสี่เขียว กะหล่ำขาว ผักขมฝรั่ง

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อาหารบำรุงครรภ์


ต้องรับประทานอะไรบ้าง
ร่างกายของคุณต้องการโปรตีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 โปรตีนมีส่วนสำคัญในการสร้างเนื้อเยื่อ นอกจากนม โยเกิร์ต และเนยแข็ง อาหารที่อุดมด้วยโปรตีน ได้แก่
-เนื้อสัตว์:เนื้อวัว เนื้อลูกวัว เนื้อม้าปรุงแบบสุก
-ปลาไขมันต่ำ ได้แก่ ปลาคอท ปลาตาเดียว และปลาทะเล
-สัตว์ปีก ได้แก่ ไก่ ไก่งวงตัวเมีย ไก่งวงตัวผุ้ ไก่ต๊อกไข่
-ไม่ควรบริโภคเกินปริมาณ

คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการแคลเซียม
ช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ต้องรับประทานอาหารแร่ธาตุ และสารอาหารอย่างพอเพียง แต่ละวันในปริมาณ 2,100 แคลอรี่ โดยเฉลี่ยแล้วแคลเซี่ยมเป็นแร่ธาตุชนิดหนี่งที่สำคัญมาก ต่อการสร้างกระดูกและฟันของทารก กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และนำว่าในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรได้รับแคลเซี่ยมไม่ต่ำว่า 800 มิลลิกรัม แต่ค่าเฉลี่ยที่คนไทยได้รับจากการบริโภคอาหาร 3 มื้อ อยู่ที่วันละ 360 มิลลิกรัมเท่านั้น
แหล่งของแคลเซี่ยมที่ดีที่สุดคือ นมสด คุณสามารถเลือกพร่องมันเนยหรือไม่มีไขมันที่มากเกินความต้องการ และอาจทำให้น้ำหนักของคุณเพิ่มมาเกินไป ถ้าคุณไม่สามารถดึ่มนมได้ หรือได้รับแคลเซี่ยมจากอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการ อาจพิจารณาแคลเซี่ยมเสริมที่มีหลายรูปแบบ เช่น แบบเม็ดฟองฟู่ละลานน้ำรสส้ม แบบเม็ดเคี้ยว หรือ แบบเม็ดธรรมดา เพื่อให้คุณได้รับแคลเซี่ยมอย่างเพียงพอ สำหรับคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์

การรับประทานอาหารให้สมดุลและหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของร่างกาย ในการสร้างทกรก อย่ารับประทานอาหาร เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แต่ให้รับประทานอาหารดีขึ้น 2 เท่า

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อาหารบำรุงครรภ์

อาหารและเครื่องดื่มที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยง
การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพระหว่างการตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง และอาหารที่ควรรับประทาน อาหารบางชนิดอาจทำอันตรายต่อลูกน้อย และทำให้คุณแม่ป่วย ดังนั้นความปลอดภัยของอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ ลำดับต้น ๆ โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารดังต่อไปนี้ โดยเต็ดขาด

เนื้อหรือปลาที่ปรุงไม่สุก หรือเกือบดิบ โดยเนื้อที่ทานได้ต้องไม่มีสีชมพูเหลืออยู่ปลา หรือเนื้อที่เสิร์ฟดิบ ๆ เช่น ซูชิ สเต็กบางชนิด ปลาแซลมอนรมควัน หอยนางรม นมที่ไม่ ผ่านการฆ่าเชื้อ และเนยแข็ง

ควรหลีกเลี่ยงการทานถั่วลิสง ระหว่างการตั้งครรภ์และการให้นมโดย เฉพาะอย่างยิ่งหากมีประวัติการเป็นภูมิแพ้ในครอบครับเช่น โรค หอบหึด

ไข่ดิบหรือไข่ที่ปรุงไม่สุก หรืออาหารที่ทำจากไข่เหล่านี้ โดยใข่ที่ทานได้ควรผ่านการปรุงให้สุก ไม่ควรอยุ่ในสภาพที่เป็นของเหลว

แอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ แม้จะบริโภคแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยก็ยังอาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาสมองของลูกในครรภ์ได้ หากคุณแม่สูบหรี่ในรหว่างตั้งครรภ์ ทากรในครรภ์จะได้รับออกซิเจนและสารอาหารน้อยลง มีโอกาสเสี่ยงที่จะเสียชีวิตขณะนอนหลับ หรือเรียกว่า โรคไหลตาย ในเด็กทารกมีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคอื่น ๆ เช่น หอบหืด

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กระชับเต้าสวยด้วยเสื้อชั้นในสำหรับคุณแม่

1.ขนาดที่เหมาะสม-ต้องเปลี่ยนเสื้อชั้นในให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย โดยเลือกเสื้อชั้นในที่ตัดเย็บสำหรับแม่ตั้งครรภ์ ขนาดกระชับ รับน้ำหนักเต้านมที่โตและหนักขึ้นได้
2.ส่ายบ่ากว้าง-กระจายการรับน้ำหนักได้ทั่ว เพื่อกระจายน้ำหนักลงบนไหล่ได้กี โดยลองสวมดูว่าสายกดรัดไหม ถ้ามีหน้าอกใหญ่ ไม่ควรเลือกสายเล็ก เพราะมีการกดทับบริเวณไหล่จนปวดหลังได้
3.ทำจากผ้าฝ้าย-ใส่แล้วสบายตัว ระบายอากาศได้ดี มีตะขอหลังปรับได้หบายระดับตามความเหมาะสม เพราะเต้มนมจะโตขึ้นมากที่สุดในช่วงท้าย ๆ
4.ไม่สวมเสื้อชั้นในมีโครง-เพื่อช่วยให้คุณแม่สบายตัว และไม่รัดจนเกินไป
5.วันขนาดทุกครั้งที่ซื้อ-ไม่สวมเสื้อขณะวัดเพื่อได้ขนาดที่แท้จริง โดยวัด 2 ข้างไล่ไปถึงด้านหลัง ครั้งที่ 2 วันใต้ฐานหน้าอกเพือนวัดขนาดรอบตัว
6.ซื้อในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์-ควรเลือกแบบเปิดฝาทางด้านหน้าเผื่อไว้ให้นมลูกหลังคลอด
7.หลังคลอดควรสมพร้อมแผ่นป้องกันหัวนมแตกด้วย

วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อกสวยไม่หย่อนยาน

คุณแม่แต่ละคน หลังจากคลอดลูกน้อยแล้วจะอยู่ใน่ช่วงให้น้ำนมแก่ลูก การเลือกซื้อชุดชั้นในให้เหมาะสมกับขนาดของเต้านมนั้น ย่อมมีความสำคัญเพราะชุดชั้นในที่ดีต้องรองรับสรีระของทรวงอก ทำให้ทรงของทรวงอกสวย ไม่หย่อนยาน คุณแม่จึงควรทราบรูปทรงทรวงอกของตัวเอง เพื่อสะดวกต่อการเลือกซื้อชุดชั้นในที่ดี

อกลูกเชอรี่
อกรูปเชอรี่ เป็นอกที่ค่อนข้างเล็ก และแบนราบ จนเห็นฐานเต้าไม่ชัด ความพุ่งชันของกล้ามเนื้อมีน้อยมาก การเลื่อกยกทรงจึงควรเลือกสวมใส่แบบเสริมฟองน้ำ เพราะจะช่วยให้ทรวงอกดูมีเนื้อมีหนังมากยิ่งขึ้น ไม่ดูเรียบแบนจนเกินงาม

อกลูกมะนาว
อกแบบนี้ เป็นลักษณะขององที่มีฐานของเต้านมกว้าง มีความพุ่งชันของกล้ามเนื้อทรวงอกค่อนข้างน้อย การเลือกใช้ยกทรง ควรเลือกแบบเต้าสามเหลี่ยมมีฐาน เพราะยกทรงชนิดนี้สามารถช่วยเก็บเนื้อด้านข้าง ทำให้ทรวงอกคงที่ ช่วยอำพรางให้หน้าอกแลดูอวบอิ่มขึ้นได้

อกลูกแอปเปิ้ล
อกลูกแอปเปิ้ลนี้มีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม เนินอกมีความพุ่งชันมาก ควรสวมเสื้อยกทรงแบบเต้ากลม เพื่อช่วยเก็บทรงให้เข้ารูปงดงาม

อกสับปะรด
เป็นหน้าอกที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ฐานอกเล็ก เนื้อของเนินอกขยายออกด้านข้างมาก ควรเลือกสวมยกทรงที่สามารถเก็บทรงด้านข้างของทรวงอกได้หมด หรือยกทรงแบบเต็มทรงนั้นเอง

อกลูกแพร์หรือสตรอเบอรี่
เป็นอกที่มีความหย่อนคล้อยลงเล็กน้อย ลักษณะอกแบบนี้ควรเน้น และเลือกใช้ยกทรงแบบที่มีเสริมโครงแบบอ่อน ๆ เพราะจะช่วยยกกระชับหน้าอกให้ดูอวบอิ่มไม่หย่อนยาน

การสวมใส่ยกทรง
คุณผู้หญิงควรก้มตัวไปข้างหน้าแล้วสวมบรา และเกี่ยวตะขอให้เรียบร้อย แล้วค่อยยึดตัวตรงตามปกติ เพราะการสามยกทรงขณะที่ก้ม ทรวงอกจะคล้อยลงมารับกับยกทรงพอดี วิธีนี้จะช่วยประคองทรวงอกให้เข้ารูปได้

วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เสื้อผ้าแบบไหนที่เหมาะกับคุณแม่

เสื้อผ้าคนท้อง
คุณแม่หลายคนเริ่มรู้สึกว่าเอวและหน้าท้องขยายใหญ่ จนไม่สามารถใส่เสื้อผ้าที่มีอยู่แล้วได้ ก็คงต้องถึงเวลาที่จะต้องซื้อเสื้อผ้าสำหรับคนท้องแล้ว แต่อย่าเพิ่งนึกถึงเสื้อผ้าคนท้องแบบเชย ๆ หรือ เสื้อผ้าคนท้องราคาสูง เพราะจริง ๆ แล้วเสื้อผ้าคนท้องไม่เชย และไม่แพงเสมอไป หากคุณมีวิธีเลือกดี ๆ

รองเท้า
เมืออายุครรภ์เพิ่มขึ้น จะสังเกตเห็นว่าเท้าของคุณจะบวมและมีขนาดใหญขึ้นด้วยเช่นกัน ฉะนั้น ไม่แนะนำให้คุณซื้อรองเท้าแบบมีสายรัดข้อ เพราะนอกจากตัวคุณจะใส่เองลำบากแล้วใส่ได้ไม่นาน คุณจะรุ้สึกว่ารองเท้ามันมีขนาดเล็กไปซะแล้ว หาขอบแนวรัดข้อก็ให้เลือกเป็นแบบเชือกผูก ซึ่งจะสามารถรัดได้ตามขนาะดข้อเท้าพอดี ทางที่ดีให้ซื้อรองเท้าแบบเปิดสน เพราะใส่สบาย และไม่ต้องเหนื่อยกับการรัดข้อเท้าอีกด้วย แนะนำว่าอย่าส้นแบนมาก เนื่องจากจะทำให้คุณเมื่อย ให้มีส้นหนาขึ้นเพียงเล็กน้อยจะได้ใส่ได้สบายกว่า

รู้วิธีการเลือกเสื้้อผ้าสำหรับคนท้องกันแล้ว อย่ารอช้ารีบไปหาซื้อความสุขใส่ตัวเอง คงเห็นด้วยว่าช่วงระยะเวลา 9 เดือนของการตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของคนเป็นแม่

ฉะนั้นจงใช้เวลาเหล่านี้ เติมความสุขให้มากที่สุด เพราะ 9 เดือนช่างผ่านไปได้อย่างรวดเร็วจริง ๆ

วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เส้นผมของคุณจัดอยู่ในประเภทใด

ผมธรรมดา - เป็นผมที่มีความสมดุล ไม่แห้ง ไม่มันเกินไป ใครที่ผมแบบนี้นับว่าโชคดี เพราะจัดแต่งทรงง่ายและเส้นผมมักจะเงางาม สุขภาพดี แม้จะเป็นผมธรรมดาก็ต้องดูแลอย่างพิถีพิถันเพื่อรักษาสุขภาพและความเงางามไว้โดยใช้ครีมนวดทุกครั้งหลังสระ

ผมมัน - ทั้งเส้นและหนังศรีษะ มีน้ำมันมากเป็นพิเศษ ดูเป็นมันเยิ้ม หลังจากสระผมได้ไม่นาน แถมยังลีบแบน จัดทรงยาก ควรสระผมวันละ 2 ครั้ง ด้วยแชมพูสูตรธรรมดาถึงผมมัน และนวดบริเวณหนังศรีษะเป็นพิเศษ ใช้ครีมนวดบริเวณปลายผมเท่านั้น ไม่ควรหวีบ่อยเกินไป

ผมแห้ง - ดูหยาบกระด้าง แห้ง ผมพันกันง่าย หวียาก ขาด และแตกปลายง่าย โอกาสที่ผมจะเสียถึงขั้นรุ่นแรงมีมาก จึงต้องดูแลเป็นพิเศษ ให้ใช้ครีมนวดทุกครั้งหลังสระผม เพิ่มความชุ่มชื้นเงางาม เน้นบริเวณปลายผมที่แห้ง บำรุ่งด้วยครีมหมักผม

วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การดูแลผมให้สวย

1.สระผมบ่อย ๆ - ด้วยแชมพูคุณภาพดี และเหมาะกับสภาพผม
2.เล็มปลายผม - ออกเป็นประจำ หรือทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ เพือป้องกันอาการแตกปลาย
3.แปรงผมให้ทั่ว - ศรีษะด้วยแปรงคุณภาพดี เพื่อกระจายน้ำมันหล่อเลี้ยงผม
4.หลีกเลี่ยงความร้อน - ทั้งจากแสงอาทิตย์และเครื่องเป่าผม
5.อย่ารวบ - หรือทำผมที่ต้องการดึง หรือรั้งรากผมมาเกินไป เพราะจะทำให้ผมร่วงได้โดยไม่จำเป็น
6.หากจะเปลี่ยนสีผม - ควรปรึกษาช่างที่มีประสบการณ์ ซึ่งจะบอกได้ว่าเส้นผมของคุรอยู่ในสภาพที่พร้อมจะเปลี่ยนสีหรือเปล่า
7.รับประทานอาหาร - ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะธาตุอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม ได้แก่ ชิลิกา เหล็ก ซิลเฟอร์ สังกะสี และวิตามินบี เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ นมสด สาหร่ายทะเล

วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การเลือกเสื้อผ้าคุณแม่แบบง่าย ๆ

ขนาดท้องที่เปลี่ยนไป - อีกในแต่ละเดือนควรเลือกเสื้อผ้าที่ใหญ่กว่าหุ่นปัจจุบันหนึ่งไซส์เพื่อที่จะได้ยืดเวลาการใส่ไปอีก และ สามใส่สบายไม่รั้ดตัวจนเกินไป

เนื้อผ้ายืดหยุ่นได้ - ที่ยืดหยุดได้่ี ขอแนะนำคุณแม่ทั้งหลาย ให้ซื้้อเสื้อผ้ายี่ห้อทั่วไปที่มีขนาดใหญ่ก้ได้ เพียงแต่เสื้อผ้าคนท้องบางแห่งจะตัดด้วยผ้าสบายพิเศษ และเสื้อด้านหน้าจะยาวกว่าด้านหลัง เผื่อท้องที่ขยายใหญ่ขึ้นนั้นเอง

ชุดชั้นในใหม่ - ที่ละตัวสองตัวพอ เพื่อเป็นการประหยัด เพราะภายหลังจากลูกโตจะหยุดให้นม หน้าอกคุณแม่ก็จะกลับมาไซส์ เท่าเดิม นอกจากนี้แนะนำว่าให้ซื้อชุดชั้นในสำหรับคุณแม่โดยเฉพาะ เพราะจะมีคัดติ้ง และความสบายกว่าชุดชั้นในปกติมากทีเดียว

เสื้อผ้าสวย ๆ ก็มี - เดี๋ยวนี้มีหลายแบบมากมาย แถมยังทันสมัยอีกด้วยเมื่อถูกใจ ตัวไหนก็ขอแนะนำให้ซื้อไปเลย บางคนมีโอกาสท้องครั้งเดียว ก็ควรจะสวยให้เต็มที่

ค่อย ๆ เลือก - อย่าด่วนตัดสินในซื้อ แต่ให้ใช้เวลาลองนาน ๆ และลองทีละหลาย ๆ ตัว เพื่อให้คุณถูกใจที่สุดเพราะคนท้องจะเลือกซื้อเสื้อผ้าทั้งที ก็คงต้องคำนึงถึงโอกาสที่จะใส่ ความบ่อยมากน้อยแค่ไหน ความสบายของเนื้อผ้า และความสวยงามตามสไตล์ของแต่ละคน

เผื่อหลังคลอด - ชุดคนท้องไม่ได้ใส่กันแค่ 9 เดือนหรอก ใครกันคลอดลูกปุ๊บหุ่นกลับมาดีปั๊บ น้ำหนักและขนาดตัวยังหดหายไป ไม่เท่าไหร่หรอก ฉะนั้นคุณก็ยังต้องพึ่งเสื้อผ้าคนท้องที่คุณมีอยู่ ทางเลือกที่ดี เสื้อผ้าคนท้องแบบสมั้ยใหม่คือคนท้องก็ใส่ได้ไม่้องก็ใส่ได้ เพื่อว่าหลังคลอดแล้วคุณก็ยังสามารถสวมใส่ได้ แถมยังคงดูอินเทรนด์อีกด้วย

แบบที่ถูกใจ - ชุดที่ออกแบบพิเศษสำหรับการให้นมลูกโดยเฉพาะ ซึ่งเสื้อเหล่านี้ใส่แล้วแทบจะดูไม่ออก ว่าเป็นเสื้อสำหรับการให้นมลูก

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ดูแลเล็บดีสุขภาพก็ดีตาม

เล็บ-เป็นอีกหนึ่งอวัยวะเล็ก ๆ ที่สำคัญ ที่สามารถบ่งบอกสุขภาพ และ บุคลิกภาพได้ การดูแลเล็บอย่างสม่ำเสอมและถูกวิธี จึ่งช่วยให้เล็บเสื่อมสภาพช้าลง ลดปัญหา และการเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ

การดูแลเล็บ-การล้างทำความสะอาดเล็บควรล้างมือ และเล็บด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ ใช้แปรงนุ่ม ๆ ขัดตามซอกเล็บเบา ๆ และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ชโลมด้วยครีมบำรุงเพือเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับมือ และเล็บ

การตัดเล็บมือที่ถุกต้อง-ควรตัดให้มีความโค้งมนไปตามนิ้วมือ ส่วนเล็บเท้านั้น พยายามตัดให้เป็นเส้นตรงมากที่สุด เพือลดการสะสมของความสกปรกตามซอกเล็บ และโอกาสเกิดเล็บขบ ไม่ควรตัดสั้นจนชิดเนื้อมากเกินไป และไม่ควรใช้วัสดุใด ๆ แงะ งัด ขอบเล็บ จมูกเล็บ เพราะอาจเกิดบาดแผล และการอักเสบได้

วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ลบริ้วรอยหลังคลอด


แผลนูนชนิดคีลอยด์ หรือแผลหลังการผ่าตัด เช่นผ่าตัดไส้ติ่ง คลอดลูก เป็นต้น แผลแบบนี้การรักษาทางการแพทย์พยายามที่จะคิดค้นหาวิธีการที่จะแก้ไข และรักษาแผลเป็นให้กลับคืนสู่สภาพผิวปกติ แต่พบว่ายังไม่มีวิธีใดที่จะรักษาให้หายได้ 100% แต่ก็สามารถทำให้ดีขึ้นได้บ้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของแผลเป็น และวิธีการรักษา

คุณสามารถ
1.ใช้ยาทาแก้แผลเป็น เช่นยากลุ่มสเตียรอยด์ ยาที่เป็นซิลิโคนเจล ยาที่มีวิตามินE หรือวิตามินA เป็นส่วนประกอบ ซึ่งโดยทั่วไปอาจจะช่วยลดอาการคัน หรือทำให้แผลเป็นสีจางลง หรือบางลงได้เล็กน้อย ซึ่งก็ต้องใช้เวลาพอสมควร

2.การใช้แผ่นซิลีโคนเจล ปิดบริเวณแผลเป็นซึ่งจะช่วยได้ในแผลเป็นที่เป็นใหม่ ๆ ช่วยลดการขยายตัวของแผล


ผิวลาย
เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 5 ผิวหนังจะสูญเสียความยืดหยุ่นไปโดยธรรมชาติ จึงอาจเกิดลอยสีชมพูบริเวณท้อง หน้าอก และขาอ่อน คุณสามารถกำจัดอาการนี้ได้ โดย ใช้เคล็ดลับป้องกันดังต่อไปนี้

อย่าปล่อยให้อ้ววเร็วจนเกินไปหมั่นนวดด้วยน้ำมัน หรือครีมบำรุงทุกวัน นอกจากนี้ ครีมป้องกันผิวลาย ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาก็ให้ผลดีเช่นกัน ไม่มีปาฏิหาริย์ใดที่จะทำให้อาการผิวลายนี้หายไปได้ มีเพียงการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นที่จะช่วยคุณได้

วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

แต่งหน้าสวยให้คุณแม่

หากคุณแม่กำลังมองหาสไตล์การแต่งหน้าที่สวยแบบดูเป็นธรรมชาติ เราได้นำวิธีการแต่งหน้าสวย ๆ สไตล์เบา ๆ มาให้ทดลองนำไปใช้กัน

1 รองพื้นให้เรียบเนียน หลังจากนั้นก็ปัดแปฟ้งฝุ่นทับอีกครั้ง


2 ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อนไล้บนเปลีอกตาด้านบนให้ทั่ว ตกแต่งคิ้วด้วยอายแชโดว์สีน้ำตาล


3 ปัดแก้มด้วยบลัชออนน์สีชมพูอมส้ม


4 ทาปากสีชมพูอ่อนแล้วตามด้วยลิปกลอสเพิ่มความชุ่มชื่น

วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การดูแลตนเอง

สาวอย่างเรา ถึงต้องเปลี่ยนบทบาทมาเป็นคุณแม่มือใหม่ ต้องรับมือกับภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง ในการเลี่ยงดูประคบประหงมเจ้าตัวน้อย แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะดูแลสุขภาพ และความสวยความงามของตัวเอง เพราะในระหว่างตั้งครรภ์นั้น ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งหน้าท้องที่ขยายจากเดิมมากจนแตกลาย และหย่อนยาน แคลเซี่ยมที่ถูกดึงไปให้ลูกอาจส่งผลให้บางคนมีผิวหมองคล้ำ ผมร่าง และสิ่งที่น่่ากลัวที่สุดคือ ไขมันที่สะดสมอยู่ตามช่วงต้นแขน ต้นขา หน้าท้องและสะโพก

จุดด่างดำบนใบหน้าระหว่างที่ตั้งครรภ์
ในช่วง 4 หรือ 6 เดือน จะมีจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลขึ้นบนบริเวณใบหน้า รอยต่าง ๆเหล่านี้ ปกติจะลบเลือนไปเองหลังจากคลอดลูกแล้ว ข้อควรระวังประการสำคัญคือ ระวังการสัมผัสรังสีอุลตราไวโอเลต ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นสีผิว พยายามหลีกเลี่ยงแสงจากดวงอาทิตย์ ในหน้าร้อยอย่าให้ผิวหน้ากระทบกับแสงอาทิตย์ หรือมิเช่นนั้นให้ปกป้องผิวด้วยการทาคริมกันแดดและสวมหมวก

หน้าตา
ผิวธรรมดา
ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำสะอาด และสบุ่อ่อน ๆ ทั้งในตอนเช้าและเย็น อาจใช้น้ำนมล้างหน้าควบคู่ไปด้วยก็ได้ ควรล้างและเช็ดออกเบา ๆ ทำเป็นประจำทุกวัน จะช่วยไม่ให้ผิวแห้ง และให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ เพราะระหว่างที่ตั้งครรภ์ ผิวหนังอาจแพ้ต่อส่วนผสมบางชนิด ทางที่ดีควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่ายที่มีขายตามร้านขายยา

ผิวแห้ง
โดยปกติ ผิวของคนท้องจะแห้งขึ้น ควรให้ความชุ่มชื้้นแก่ผิวด้วยครีมป้องกัน ผิวแห้งในตอนเช้า และตอนเย็นโดยเฉพาะ ในหน้าหนาวอากาศจะแห้งมาก ดังนั้นจึงควรดูแลผิวให้ดี ใช้สบู่ล้างหน้าวันละ 1-2 ครั้งก็พอ ควรเลือกสบู่อ่อน ๆ หรือสบู่สำหรับผิวมันที่ผสมออย (Oil) จะช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าหลังล้างหน้าได้ดียิ่งขึ้น ใช้ครีมบำรุงผิว (Moisturizer cream) ทาบาง ๆ เป็นประจำ ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมจำพวกสารยูเรีย (urea) ซึ่งเป็นสารที่จะช่วยอุ้มน้ำ ทำให้ผิวหน้านุ่มเนียนชุ่มชื้นอยุ่เสมอ ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะน้ำเป็นสิ่งที่ให้ความชุ่มชื้นอยุ่เสมอ ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะน้ำเป็นสิ่งที่ให้ความชุ่มชื้นต่อผิวหนัง ควรดื่มวันละอย่างน้อย 5-6 แก้ว

ผิวผสม
เป็นลักษณะของผิวที่แห้งและมัน เป็นจุด ๆ บริเวณที่มันคือ บริเวณ T-Zone ซึ่งได้แก่บริเวณหน้าผาก จมุก และคาง วิธีที่ดีที่สุดคือ ดุแลแต่ละส่วนอย่างถูกต้อง อาจเป็นเรื่องน่ารำคาญ แต่ก็ช่วยให้ผิวของคุณอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดในบริเวณที่มีผิวมัน ก็ควรทำความสะอาดบ่อย ๆ โดยการเช็ดหรือใช้กระดาษซับมันทำความสะอาดบ่อย ๆ โดยการเช็ดหรือใช้กระดาษซับมันทำความสะอาด และทาน้ำยาการะชับรูขุมขนส่วนบริเวณที่มีผิวแห้ง ก็ใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวที่แห้ง

ผิวมัน
สภาพผิวมันจะมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ควรทาครีมที่เหมาะกับ สภาพผิว บางครั้งอาจมีสิวขึ้นบ้างจนกระทั่งถึงตอนคลอด ให้ขอคำแนะนำจากแพทย์ ควรล้างหน้าด้วยสบู่สำหรับผิวมัน ซึ่งมีตัวยาพวดกำมะถันซาลิไซลิกแอซิด ทำให้หน้ามันลดลง หรือใช้สบู่กำจัดสิว หากเป็นสิวร่วมด้วย ควรล้างหน้าบ่อย ๆ ทาน้ำยากระชับรูขุมขนเพื่อนทำให้รูขุมขนบนใบหน้าเล็กลง เนื่องจากน้ำยาน้ำทำให้ผิวหนังบริเวณรุขุมขนหดตัวลงทำให้ผิวดูเนียนขึ้น

วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ภาวะแทรกซ้อน

การแท้ง
การแท้งคือการสิ้นสุดการตั้งครรภ์ก่อนคลอด โดยอายุครรภ์ น้อยกว่า 28 สัปดาห์ จะมีภาวะเลือดไหลไม่หยุด และปวดบริเวณท้องน้อย เหมือนปวดประจำเดือน หากคุณมีความเสี่ยง แพทย์จะดูแลอย่างใกล้ชิด หากเกิดการแท้งลูก และไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น ก็สามารถตั้งครรภ์ได้ตามปกติ

วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ท็อกโซพลาสมา

ท็อกโซพลาสมา
เจ้าพยาธิตัวร้าย เป็นต้นเหตุของโรคติดเชื้อชนิดนี้จะพบได้ในเนื้อดิบ หรือปรุงไม่สุก ผักและผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด และจะพบได้มาในเนื้อแกะ และเนื้อหมู รวมทั้งสัตว์เลี้ยง อย่างแมวก็สามารถเป็นตัวนำเชื้อท็อกโซพลาสมาได้เช่นกัน อาการของโรคท็อกโซพลาสมา จะมีอาการอ่อนเพลีย เป็นไข้ ปวดกล้ามเนื้อ มีการสำรวจพบว่า คนจำนวนมาก เป็นพาหะนำเชื้อ แต่ 80% ของผู้หญิง จะมีภูมิคุ้มกันเองตามธรรมชาติ โรคท็อกโซพลาสมาในเด็ก อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ ถ้าแพทย์ตรวจพบว่าคุณยังไม่มีภูมิคุ้มกัน คุณต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ไวรัสตับอักเสบ
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ติดเชื้อจากการกินหอย และสัตว์มีเปลือกชนิดที่ 2 คือ ไวรัสตับอักเสบชนิดบี จะแพร่เชื้อทางเลือด และการมีเพศสัมพันธ์ หากหญิงมีครรภ์ มีร่างกายอ่อนแอจะมีความเสี่ยงสูงที่จะคลอดก่อนกำหนด ทารกอาจติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ หรือระหว่างการคลอดได้ หากคุณติดเชื้อต้องรับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด สำหรับทารกน้ำ แพทย์จะให้การรักษาโดยการฉีดวัคซีนทันทีหลังคลอด

แพทย์บางคนจะเสนอแนะให้คุณตรวจหาเชื้้อไวรัส HIV ซึ่งผล การตรวจจะถูกปกปิดเป็นความลับ หากญิงมีครรภ์ได้รับเชื้อ HIV ทารกในครรภ์ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อได้เช่นกัน หากช่วงเดือนแรกเชื้อไวรัสไม่ปรากฎออกมา ทารกจะปลอดภัยจากการติดเชื้อ แต่ถ้าทารกแสดงอาการออกมา นั่นก็แสดงว่าทารกได้รับเชื้อแล้ว ดังนั้นต้องเฝ้าคอยรักษาอย่างใกล้ชิด

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น

การทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด เป็นหัวใจสำคัญ ทุกครั้งที่อาบน้ำ สาว ๆ ไม่ควรละเลย ควรเป้นจุดที่่ต้องทำความสะอาด อย่างใส่ใจ กรณีคราบไคลมาก การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อน ๆ ใกล้เคียงกับกรดแลคโตบาซิลไล ซึ่งจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา

เชื้้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี จึงสามารถลดการระคายเคืองและกลิ่นอับชื้้นได้ อาจใช้ทิชชูนุ่ม ๆ สะอาด ๆ หรือแผ่นทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น หลังจากทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นแล้วควรปล่อยให้แห้ง หรือซับให้แห้งด้วยผ้าเช็ดตัว

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เชื้อโรคที่มากับมือ


โรคติดเชื้้อมากมาย สามารถติดต่อผ่านการสัมผัส ตัวอย่างโรคที่พบบ่อย มีดังนี้ โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น หวัด วัณโรค ไข้หวัดใหญ่ โรคหัด หัดเยอรมัน นอกจากจะติดต่อผ่านการหายใจเอาเชื้อเข้าไปแล้ว การที่มือไปสัมผัสกับสิ่งของ เครื่องใช้ที่ใช้ร่วมกับบุคคลอื่น หรือเครื่งใช้ในที่สาธารณะ เช่น ลูกบิดประตู ราวโหนรถเมล์ หรือราวบันได แล้วมาแคะจมูก เชื้อโรงก็จะเข้าสู่โพรงจมูกส่วนหน้า เมื่อหายใจเข้าไป โรคติดต่อทางการสัมผัสโดยตรง เช่น โรคตาแดง โรคเชื้อรา แผลอักเสบที่ผิวหนัง หิด เหา โรคเริม โรคที่ติดต่อได้หลายทาง เช่น โรคอีสุกอีใส อาจติดต่อได้จากการหายใจ และการสัมผัสเชื้อเหล่านี้เป็นโรคที่พบบ่อย และบางครั้งอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมาได้

โรคหลายโรคติดต่อโดย มีมือเป็นตัวนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย การล้างมือเป็นวิธีการป้องกันโรคติดเชื้้อทั้งทางเดินหายใจ และการสัมผัสโรคติดต่อ และทำให้เสียชีวิต คือ ไข้หวัดมรณะหรือ SARS ไข้หวัดนก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องล้างมืออย่างถูกวิธี นอกจานนี้ควรล้างมือด้วยน้ำที่กำลังไหลริน จากก็อกน้ำ และควรใช้ผ้าหรือกระดาษสะอาดเช็ดมือให้แห้ง หรือทำให้แห้งด้วยเครื่องเป่าลมหลังล้างเสร็จ

วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

โรคติดเชื้อต่าง ๆ

แบคทีเรีย
สิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ที่มีกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถมองด้วยตาเปล่า ทำให้เกิดการเจ็บป่วย เช่น อาการเจ็บคอ ทอลซินอักเสบแดง มีเสมหะเป็นสีเหลืองหรือเขียว แผลเป็นหนอง ปวดบวม ร้อน เป็นต้น

ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเป็นอันตรายได้เข้ามาสู่ร่างกายตามช่องทางต่าง ๆ เช่น ปาก คอ หู ตา จมูก ทวาร บาดแผล เป็นต้น เมื่อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายเข้ามาในร่างกายเรา ธรรมชาติร่างกายของมนุษย์ ก็จะมีหน่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอม เช่น เม็ดเลือดขาวชนิดต่าง ๆ ที่จะมากำจัดเชื้อโรค

เมื่อเกิดอาการผิดปกติข้างต้นขึ้น เมื่อมาถึงแพทย์ บางชนิดแพทย์มีความแน่ใจก็จะสามารถให้ยาต่อต้านเชื้้อโรคที่เรียกว่า ยาปฏิชีวะนะหรือแอนตีไบโอติค หรือยาแก้อักเสบได้เลยทันที เพื่อให้ช่วยทำลายยับยั้ง

รายกายสามารถกำจัดทำลายสิ่งแปลกได้
ร่างกายอาจผิดปกติเพียงเล็กน้อย หรืออาจไม่มีอาการอะไรเลย แต่ถ้าร่างกายไม่สามารถกำจัดได้ทัน เนื่่องจากเชื้อโรคมีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว เข้ามาแบบกองโจรแล้วรีบหลบซุ่มฟักตัวในจุดที่เม็ดเลือดขาว ตามไม่พบหรือในช่วงร่างกายกำลังอ่อนแอ กองทัพเม็ดเลือดขาวไม่ทำงานสิ่งแปลกปลอม จะมีการระดมเม็ดเลือดขาวมาในบริเวณติดเชื้ออย่างมาก ทำให้เป็นหนอง มีอาการ ปวด บวม แดง เป็นต้น ถ้ากองทัพเม็ดเลือดขาว ด่านแรกสู้ไม่ได้ เจ้าเชื้อโรคก็จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยต่าง ๆ นานา ตามลักษณะของเชื้อ เช่น ท้องร่วง ท้องเสีย เจ็บคอ มีไข้ ปวดบวมได้มากมาย

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เส้นเลือดขอด


เส้นเลือดขอด
อาการปวดขา บวม ตึง และเกิดจุดเล็ก ๆ ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการที่เส้นเลือดขอด การเพิ่มขึ้นของเม็ดเลือด ระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้เกิดการขยายตัวของเส้นเลือดดำ ซึ่งอาจปรากฏขึ้นในช่วงครื่งหลังของการตั้งครรภ์ การเกิดเส้นเลือดขอดจะมีโอกาสเกิดขึ้น ถ้าคุณแม่มีการยึนนาน ๆ สามารถป้องกันได้ด้วยการนั่งแล้วยกเท้าทั้งสองข้างพาดกับเก้าอี้หนึ่ง ให้สูงกว่าบริเวณก้นเล็กน้อย เพื่อให้เลือกบริเวณปลายเท้าไหลกลับสุ่ร่างกายให้สะดวกยิ่งขึ้น แต่มั่นใจได้ว่าหลังคลอด รอยต่าง ๆ จะลบเลือนไป แต่ถ้ายังไม่หาย ผู้เชียวชาญสามารถช่วยรักษาได้

หลีกเลี่ยงเส้นเลือดขอดได้อย่างไร
-ออกกำลังกายก่อนคลอดบ่อย ๆ ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิดดีขึ้น พยายามยืดกล้ามเนื้อในระหว่างวัน
-ควรนั่งทำงานขณะที่อยู่ที่ทำงาน เมื่ออยู่บ้านหากต้องรีดผ้า หรือทำกับข้าวควรนั่งทำด้วยเช่นกัน
-เดินวันละ 30 นาที และว่ายน้ำสม่ำเสมอ ควรยืนให้น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
-หลีกเลี่ยงการสวมเสื่อผ้ารัด ๆ เช่น ถุงเท้า หรือ รองเท้าที่คับจนเกินไป
-ยกขาขึ้นเล็กน้อย ขณะนอนหลับใช้หมอน หรือสมุดโทรศัพท์รองใต้ที่นอน
-หลีกเลี่ยงความร้อนเพราะทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น อาบน้ำที่ร้อนจัดเกินไป หรือ การถูกแสงอาทิตย์จัด ๆ เป็นเวลานาน

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

กลิ่นบำบัด

กลิ่นบำบัด
ปวดหลัง ขาเป็นตะคริว อาการเหล่านี้ต้องเป็นกันบ่อย ๆ สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ รวมทั้งอาการไม่สบายกายใจอื่น ๆ ๆที่มักเกิดขึ้น แต่เมื่อคุณแม่จะใช้ยาเพื่อบรรเทา อาการก็เป็นกังวลว่าจะมีผลข้างเคียงกับเจ้าตัวน้อย แต่มีวิธีโดยการใช้กลิ่นบำบัด หรือ Aromatherapy คือ การใช้น้ำมันหอมระเหย ซึ่งสกัดจาก ดอก ใบ หรือผลของสมุนไพรและพืชนานาชนิด อาจจำมาผสมในน้ำใช้ในการอาบ แช่ตัว หรือใช้ในการนวดประคบ และการสุดดม

ปวดหลัง : ใช้ผสมน้ำมันหอมกลิ่นโรสแมรี่ หรือคาโมไมล์ ในการนวดหลัง
ตะคริว : นวดบริเวณที่เป็นตะคริวด้วยน้ำมันหอมจัสมิน
ปวดศรีษะ เครียด ซึมเศร้า : ใช้ผ้าประคบเย็น กลิ่มคาโมไมล์ประคบศรีษะ
เป็นไข้ หรือมีอาการเจ็บปวด : ใช้การสุดกลิ่น หรือประคบโดยใช้กลิ่นที่สดชื่นอย่างยูคาลิปตัส หรือลาเวนเดอร์

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อาการปวดเมื่อย

ตะคริว
อาการตะคริวที่ขา และเท้า มักเกิดในเวลากลางคืน บางอาการปวดอย่างรุนแรง วิธีแก้ ให้ดันขาเข้าหาตัว และใช้มือจับไว้ ถ้าไม่หาย ให้นวดคลึง หรือเดินไปมาหากเป็นบ่อย ควรทางแคลเซียม วิตามินบี

อาการปวดแขน
กระดูกสันหลังของคุณ จะเปลี่ยนรูป และจะกดทับเส้นประสาทบางอย่าง แขนของคุณจะรู้สึกชา และปวดเป็น ๆ หาย ๆ มีสาเหตุจากการที่เส้นประสาทถูกกดทับ

อาการปวดแขน
กระดูกสันหลังของคุณจะเปลี่ยนรูป และจะกดทับเส้นประสาทบางอย่าง แขนของคุณจะรู้สืกชา และปวดเป็น ๆ หาย ๆ มีสาเหตุจากการที่เส้นประสาทถูกกดทับ

อาการปวดหลัง
การปวดหลัง จะเกิดขึ้นบ่อยที่สุดสำหรับคนท้อง ความโค้งงอจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละเดือน และก่อให้เกิดการบีบตัวของกระดูกสันหลัง ควรบรรเทา และหลีกเลี่ยงความปวดด้วยการแอ่นท้องมาด้านหน้าบ่อย ๆ ท่านี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง


วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เมื่อคุณแม่นอนไม่หลับ

How to เมื่อคุณแม่นอนไม่หลับ

เมื่อคุณแม่เริ่มท้องใหญ่ขึ้น มดลูกเริ่มโตขึ้น คุณแม่จะหาท่าสบาย ๆ นอนยากเต็มแก่ นอกจากท่านอนแล้ว ความกังวล ความไม่สบายใจทั่ว ๆ ไป หูไวต่อเสียงรบกวน และการต้องลุกไปเข้าห้องน้ำในตอนกลางคือ ก็มีส่วนทำให้คุณแม่นอนไม่หลับ แต่ก็มีเคล็ดในการนอนคือ
-ถ้านอนไม่หลับ พยายามเดินออกกำลังกายเบา ๆ ทุกวัน
-ให้อาบน้ำอุ่นก่อนนอน
-ดื่ีมนมอุ่น ๆ สักแก้วจะช่วยให้หลับดีขึ้น
-ให้นอนตะแคงข้างซ้ายมีหมอนหนุนท้องและขา
-ฟังดนตรีเบา ๆ จากเครื่องเสียงหรือ ออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย
-นอนบนม้าโยก
-หลีกเลี่ยงการทำให้ร่างกายเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าในตอนกลางวัน


วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คุณแม่ควรนอนท่าไหนดี


คุณแม่ควรนอนท่าไหนดี
ท่านอนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ เพราะร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไป จากเดิม รวมถึงอารมณ์ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมด้วย สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณแม่นอนไม่หลับ แล้วยังรู้สึกอ่อนเพลีย เพราะคุณแม่หลับไม่สนิทนั่นเอง เรามาดูท่านอนที่ทำให้คุณแม่นอนหลับสบายมากขึ้น

นอนตะแคงซ้าย
การนอนตะแคงซ้ายจะช่วยไม่ให้มดลูกกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ จะทำให้เลือดจากขา ไหลย้อนกลับเข้าสู่หัวในได้ดี ทีให้เลือดหมุนเวียนได้ดี และไตสามารถขับถ่ายของเสียได้ตามปกติ (ไม่สมควรนอนหงาย)

ขณะที่นอนควรหาหมอนหลาย ๆ ใบมาหนุนรองตามส่ิวนต่าง ๆ ของร่างกาย จะทำให้นอนหลับสบายขึ้น หมอนข้างจะช่วยรองรับน้ำหนักบริเวณขาและแขน รวมทั้งช่วยป้องกันบริเวณหน้าท้องจากการกระแทก สิ่งสำคัญคือ เมื่อหลับตานอน คุณแม่ต้องตัดความกังวลใจ เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย

วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เคล็ดลับป้องกันอาการคลื่นไส้

ถ้ายังอยู่ในระยะวางแผนการตั้งครรภ์
คุณควรงด หรือลดปริมาณอาหารประเภทไขมั้นอิ่มตัว(Saturated fat) ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ เช่น เนย,น้ำมันหมู,นม,ครีม,ไขมันสัตว์ และเบคอน

พยายามอย่าปล่อยให้ท้องว่าง
เพราะจะยิ่งทำให้อาเจียน การปล่อยให้ท้องว่าง จะทำให้รู้สึกวิงเวียนศรีษะ หน้ามืด คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับประทานคุ้กกี้ หรือ ขนมปังกรอบสัก 2-3 ชิ้น ช่วงตื่นนอน จะช่วยลดอาการแพ้ท้องได้บ้าง

นอกจากน้ำเปล่าแล้วคุณแม่อาจจับนมอุ่น
น้ำผลไม้ หรือเครื่องดึ่มอื่น ๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ คุณแม่ตั้งครรภ์บางรายอาจชอบเครื่งดื่มเย็น ๆ บางคนชอบเครื่องดื่มในอุณหภูมิปกติ บางคนชอบเครื่องดื่มรสหวาน บางคนชอบเครื่องดื่มรสเปรี้ยว

ควรรับประทานอาหารอ่อน ๆ
ที่ย่อยง่าย รับประทานทีละน้อย แต่บ่อยขึ้น เช่น อาจรับประทาน 5-6 มื้อเล็ก ๆ แทนการรับประทาน 3 มื้อต่อวันตามปกติ เพราะทำให้ท้องไม่ว่าง นอกจากนั้นควรนั่งตัวตรงระหว่างรับประทานอาหาร

หลีกเลี่ยงกลิ่น
หรืออาหารที่จะทำให้คุณเกิดอาการวิงเวียน ในระยะแรกของการตั้งครรภ์อาจขอให้น้องสาว ญาติพี่น้อง หรือคนใกล้ชิด กรณีไม่มีแม่บ้าน เป็นผู้ปรุงอาหารแทนไปก่อน หากซึ้ออาหารนอกบ้านรับประทาน ควรระมัดระวังเรื่องความสะอาดด้วย และอาจเปิดหน้าต่างบ้างเพื่อระบายกลิ่น

ก่อนรับประทานยา
ยาชนิดใดก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัว หรือแพทย์ที่คุณฝากครรภ์ ไม่ว่ายานั้นจะเป็นยาชนิดที่คุณสามารถซื้อได้สะดวกตามร้านขายยาทั่วไปโดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ทำยังไงกับอาการแพ้ท้อง

อาการแพ้ท้อง
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย อย่างไรก็ดีวิธีช่วยให้อาการแพ้ท้องหายขาดนั้นไม่มี มีเพียงวิธีบรรเทาให้เบาลง โดยอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างซึ่งทำได้ง่าย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ช่วงไหนที่แม่แพ้ท้อง
อาการแพ้ท้องกับคุณแม่ตั้งครรภ์ เป็นของคู่กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มักพบในช่วงตั้งครรภ์อ่อน ๆ ประมาณสัปดาห์ที่ 6-14 คุณแม่ตั้งครรภ์ จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน น้ำลายขม รับประทานอาหารไม่ได้ เวียนศรีษะ อาการมักเป็นมากในตอนเช้า หรืออาการตลอดวันเลยก็เป็นได้ได้ในบางราย

สาเหตุของอาการแพ้ท้อง
เกิดจากฮอร์โมนที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ซึ่่งจะกระตุ้นให้อาเจียนได้ง่าย ไวต่อกลิ่น และรสบางชนิดทั้งยังส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง และเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งทำให้อาการแพ้ท้องเป็นมากขึ้น หากคุณรู้สึกว่ามีอาการแพ้ท้องคลื่นไส้ อาเจียน มาผิดปกติ ควรไปพบแพทย์

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วิธีการป้องกันปัญหาย่อยอาหาร

งดอาหารที่เป็นอันตราย อย่ารับประทานอาหารมากเกินไป เพราะอาหารจะไปตกค้างอยู่ในลำไส้

อาหารที่มีกรดและอาหารที่พองตัว ทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก เช่น กะหล่ำปลี หน่อไม้ฝรั่ง และถั่วแขก

แบ่งมื้ออาหาร เช่น ทานอาหารว่างหลังจากอาหารหลัก 2 ชั่วโมง

ควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลา และหลีกเลี่ยงการก้มตัวหรือเหยียดตัวเพื่อลดการอาเจียนเหม็นเปรี้ยวได้ เพราะอาเจียนลักษณะนี้จะไปกัดหลอดอาหาร

ใช้หมอนรอง ให้ท่านอนมีลักษณะคล้ายท่านั่ง เมื่อมีกรดในกระเพาะอาหาร ห้ามรับประทานยาที่อาจเสี่ยงต่อการเรียกน้ำย่อย

วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ปัญหาการขับถ่าย

ปัญหาการขับถ่าย
ปัญหาการปัสสาวะ เช่น การปวดปัสสาวะอยุ่ตลอดช่วงแรก ๆ กระเพาะปัสสาวะของคุณจะต้องอดทนต่อฮอร์โมนระหว่างที่ตั้งครรภ์ และในช่วงท้าย ๆ มันจะถูกบีบกดโดยหัวของทารกอย่าแก้ปัญหาด้วยการดื่มน้ำน้อยลงเพื่อเอาชนะอาการปวดปัสสาวะบ่อย เพราะร่างกายของคุณต้องการน้ำวันละ 1.5 ลิตร ซึ่งจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการป้องกันการติดเชื้อในปัสสาวะ

ท่อปัสสาวะรั่ว
อาการปัสสาวะรั่วเวลาหัวเราะ ไอจาม ไม่ต้องอาย เพราะในระยะ 6 เดือนนี้เป็นการบ่งบอกว่าช่องคลอดของคุณเริ่มจะขยายตัว ถึงเวลาที่จะต้องผดุงครรภ์แล้ว

ริดสีดวง
อาการของริดสีดวงคือมีตุ่มขึ้นบริเวณรอบทวารหนัก หลังจากถ่ายอุจจาระเสริจแล้ว อาจมีอาการบวมคัน และมีเลือดออก หากมีอาการปวดมาก ๆ แพทย์ก็จะทำการรักษา ให้ในภายหลัง เมื่อคลอด โรคริดสีดวงอาจกำเริบขึ้นมาได้อีกเป็นครั้งคราว

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อาการไม่สบายเมื่อตั้งครรภ์


อาการไม่สบายเมื่อตั้งครรภ์ เป็นเรื่องปกติของคุณแม่ตั้งครรภ์ เคล็ดลับ และวิธีป้องกันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีที่คุณแม่ควรทราบ
ท้องผูก
ลำไส้ของว่าที่คุณแม่จะทำงานช้าลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เคยท้องผูกมาก่อน จะพบปัญหาดังกล่าวซึ่งอาจส่งผลต่อการติดเชื่อในปัสสาวะ ข้อแนะนำในการรักษาอาการท้องผูก ด้วยวิธี 3 ประการ ได้แก่

1.ออกกำลังกาย โดยการเดินวันละครึ่งชั่วโมงก็เพียงพอ สำหรับการทำให้ลำไส้กลับมาทำงานเป็นปกติอีกครั้ง
2.รับประทานอาหารที่ช่วยให้ขับถ่าย เช่น ผักใบเขียว ผลไม้สด หรือผลไม้กวน และขนมปัง โฮลวิต หรืออาจเปลี่ยนเป็นผลไม้แห้งบ้างก็ได้ เปลี่ยนมาใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลทรายขาว ดื่มน้ำที่มีส่วนผสมของเกลือเล็กน้อย ตอนตื่นนอนให้ดื่มน้ำส้ม หรือน้ำองุ่น หรืออาจเป็นน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น
3.ฝึกฝนการมีสุขลักษณะที่ดี อยู่เสมอ เช่น ขับถ่ายให้ตรงเวลา

ปัญหาการย่อยอาหาร
อาการแน่นท้อง หลังรับประทานอาหาร ท้องอืด อาเจียน เรอเหม็นเปรียว มีสาเหตุจากการที่กระเพาะอาหารทำงานช้าลง เนื่องจากฮอร์โมนระหว่างการตั้งครรภ์ที่เกี่ยวข้องกับกลไกการทำงานของร่างกาย และการขยายตัวของมดลูกที่จะไปกดทับลำไส้

วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รายการนัดหมายคุณแม่

เดือน 1-3
ตรวจช่องคลอด
ตรวจความดันโลหิต การเต้นของหัวใจ
ตรวจปัสสาวะ
ตรวจเลือด
น้ำหนัก
อัลตราซาวด์ครั้งแรก

อาการแม่และเจ้าตัวน้อย
แม่ - ประจำเดือนมาล่าช้า คัดเต้านม คลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อยง่าย ฮอร์โมนเพิ่มขึ้น ท้องผูก
ทารก - ไข่เป็นตัวอ่อนมีการแบ่งเชลล์หัวใจเริ่มเต้น ปอดเริ่มทำงานมีเค้าโครงหน้า ดวงตา

เดือน 4-6
ตรวจเลือดอย่างละเอียด
ตรวจน้ำตาลลและอัลบูมิน
วัดขนาดของมดลูก
ตรวจอาการบวมน้ำ
ตรวจช่องปาก
คลำท้อง
น้ำหนัก
อัลตราซาวด์ครั้งที่ 2

อาการแม่และเจ้าตัวน้อย
แม่ - หน้าท้องคุณแม่นุนออกมาเล็กน้อย แพ้ท้องลดลง น้ำหนักเพิ่มขึ้น 0.5 ต่อเดือน อยากอาหาร เสียดท้อง เพลีย
ทารก - กระดูกเจริญเติบโต รกเป็นแหล่งอาหาร และออกซิเจนรับรู้ต่อสิ่งเร้า มีการเคลื่่อนไหว ลืมตาได้แล้ว เตะแม่ได้แล้ว


7-9 เดือน
เตรียมของใช้สำหรับเด็กที่จำเป็น
เตรียมของใช้สำหรับไปโรงพยาบาล
เข้าคอร์สออกกำลังกาย
เข้าคอร์สเตรียมความพร้อมก่อนคลอด
อัลตราซาวด์ครั้งที่ 3

อาการแม่และเจ้าตัวน้อย
แม่ - ปวดหลัง เป็นตะคริว เต้านมผลิตน้ำนม หายใจไม่อิ่ม มือเท้าบวม เส้นเลือดขอด
ทารก - กระดูกแข็งแรงมากขึ้น เริ่มสร้างไขมันได้ผิวหนัง สามารถรับรู้ความเจ็บปวด เด็กกลับหัวลงเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด


วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ตรวจวัดระดับน้ำหนักของน้ำหนักขณะตั้งครรภ์

น้ำหนักขณะตั้งครรภ์มีเกณฑ์ดังนี้

อาทิตย์ที่ 2-12 คุณแม่จะน้ำหนักไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าช่วง 12 อาทิตย์ น้ำหนักจะเพิ่มมากขึ้นไม่เกิน 2 กิโลกรัม แต่หากน้ำหนักลดก็ยังไม่ต้องกังวลมาก เพราะการแพ้ท้องในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ อาจทำให้คุณน้ำหนักลดได้

อาทิตย์ที่ 14-24 น้ำหนักจะขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 1-1 1/2 กิโลกรัม เพราะช่วงนี้คุณแม่จะเริ่มหาย แพ้ท้องสามารถทานอาหารได้สะดวกขึ้น

อาทิตย์ที่ 26-40 รูปร่างของคุณแม่จะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน น้ำหนักคุณแม่จะขึ้นโดยเฉลี่ยเดือนละ 2-2 1/2 กิโลกรัม เจ้าตัวน้อยในครรภ์ก็กำลังเจริญเติมโตอย่างรวดเร็วทั้งทางสมอง และร่างกายจึงมักเป็นช่วงที่คุณแม่เจริญอาหารมากที่สุด และหากน้ำหนักคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไป จากนี้มากควรปรึกษาคุณหมอถึงอาการเกิดผิดปกติ

วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ปฏิบัติตัวให้ถูกต้างเมื่ออัลตราซาวด์

การตรวจถุงน้ำคร่ำ
มักใช้ตรวจหญิงตั้งครรภ์ที่อายุเกิน 38 ปี ใช้กรณีที่มีอาการผิดปกติทางพันธุกรรมเช่นพันธุกรรมบกพร่อง และโรคทางกรรมพันธุ์ ซึ่งการตรวจแบบนี้ใช้ประเมินความเสี่ยงต่อการตรวจกลุ่มเลือด Rh ได้โดยจะตรวจช่วงสัปดาห์ที่ 16-18 แพทย์จะสอดเข็มเล็ก ๆ เข้าไปในท้องโดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์ เข็มนี้จะดูดสารอะมิโนติกออกมาวิเคราะห์ โดยปกติต้องไม่มีกลิ่น

การส่องกล้อง
แพทย์จะใช้หลอดบาง ๆ ทำจากเลนส์สายตา และมีแสงเพื่อตรวจภายในมดลูก ภาพจากการส่องกล้องจุลทรรศนี้จะปรากฏทางจออัลตราซาวด์ การตรวจส่งกล้องจะช่วยตรวจอาการผิด ปกติในด้านพัฒนาการของทารก ในการตรวจน้ำต้องวางยาสลบ และใช้เวลา 30 นาที บางครั้งต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน การตรวจประเภทนี้สามารถยืนยันอาการผิดปกติจากการอัลตราซาวด์ อาจมีการตรวจทางเทคนิคแบบอื่น ๆ เช่น การตรวจช่องคลอดกรณีจำเป็น

วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การตรวจเช็คเพิ่มเติม

อัลตราซาวด์ เห็นทากรด้วยตา
เป็นการใช้คลื่่นเสียงความถึ่สูง ที่เชื่องต่อกับเครื่องส่งภาพ เพื่อฉายภาพร่างกายทารก กลับขึ้นมาปรากฏบนจอทีวี ซึ่งการตรวจนี้จำเป็นต่อการตรวจวิวัฒนาการที่ดีของทารกตั้งแต่เดือนที่ 2 ถึงเดือนที่ 9 ปฏิทินการตรวจร่างกายสม่ำเสมอ จะมีการตรวจอัลตราซาวด์ 3 ครั้ง
เริ่มรับรู้ และเคลื่อนไหวตอบสนองสิ่งเร้าภายนอกได้บ้าง

อัลตราซาวด์ครั้งแรก : สัปดาห์ที่ 7-12
ระยะนี้จะเห็นการเติมโตของตัวอ่อนทำให้แพทย์สามารถคำนวณวันคลอดได้ รวมถึงการเห็นพัฒนาการและวิวัฒนาการของทารกในครรภ์


เด็กมีน้ำหนัก 7 ขีด ตัวกับศรีษะมีขนาดสมดุลกัน หลับตาลืมตาได้


อัลตราซาวด์ครั้งที่สอง : สัปดาห์ที่ 20-40
คุณจะเห็นศรีษะ แขน และมือทารก อัลตราซาวด์จะบอกถึงรูปพรรณสัณฐาน คุณจะเห็นสุขภาพที่แข็งแรงของทารก ไม่ว่าจะเป็นขนาดอวัยวะ และการทำงานของอวัยวะและพัฒนาการของกระดูกการได้อัลตราซาวด์ ครั้งที่สองนี้อาจขอให้แพทย์ตรวจดูเพศของทารกได้


ตอนนี้ตัวยาว 30 เซนติเมตร หนัก 2 ก.ก. กระดูกแข็งแรง อวัยวะครบ



อัลตราซาวด์ครั้งที่สาม : สัปดาห์ที่ 32-34
เพื่อตรวจดูการเจริฐเติบโต การเคลือนไหว และ การหายใจของทารก อีกครั้ง และเพื่อดูความพร้อมของทารกก่อนคลอด ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง ขนาดของทากร การฝังตัวของรก และดูว่าไม่มี สายสะดือพันรอบปากมดลูก เป็นต้น

Followers

analy